เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
Porntip srikaew [nuy] ID 5411204398 Junior Field of Early Childhood Education Faculty of Education Chandrakasem Rajabhat University.
dookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารักdookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารักdookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารักdookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารักdookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารัก dookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารักdookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารักdookdik icon ดุ๊กดิ๊กน่ารัก

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

สัปดาห์ที่ 13

วันที่ 30 มกราคม 2557


การเรียนการสอน
อาจารย์สอนเนื้อหา เรื่อง การดูแลและส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
เด็กกลุ่ม (Down’s syndrome)
 เด็กกลุ่ม (Down’s syndrome) สุปเนื้อหาได้ดังนี้
  • รักษาตามอาการ
  • แก้ไขความผิดปกติที่พบร่วมด้วย
  • ให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ใกล้เคียงกับตนปกติมากที่สุด
  • เน้นการดูแลแบบองค์รวม ( holistic approach)
การดูแลและส่งเสริมพัฒนาการเด็กดาวน์ซินโดรม ดังนี้
1. ด้านสุขภาพอนามัย
บิดามารดาพาบุตรไปพบแพทย์ ตั้งแต่เริ่มแรก ติดตามการรักษาเป็นระยะๆ
2. การส่งเสริมพัฒนาการ
 เด็กกลุ่มอาการดาวน์สามารถพัฒนาได้ ถ้าได้รับการฝึกสอนที่เหมาะสม
3. การดำรงชีวิตประจำวัน
  ฝึกให้ช่วยเหลือตนเอง
4. การฟื้นฟูสมรรถภาพ
ทางการแพทย์   การฝึกพูด กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด
ทางการศึกษา   แผนการศึกษาเฉพาะบุคคล IEP
ทางสังคม     การฝึกทักษะการดำรงชีวิต 
ทางอาชีพ  โดยการฝึกอาชีพ
การเลี้ยงดูในช่วง 3 เดือนแรก
  • การปฏิบัติของบิดา มารดา ยอมรับความจริง
  • เด็กกลุ่มอาการดาวน์มีพัฒนาการเป็นขั้น  เช่นเดียวกับเด็กทั่วไป
  • ให้ความรักและความอบอุ่น
  • การตรวจภายใน มะเร้งปากมดลูก เต้านม
  • การคุมกำเนิด การทำหมัน การสอนเพศศึกษา ตรวจโรคหัวใจ
เด็กกลุ่มอาการ Autistic

การดูแลและส่งเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติก ดังนี้
  • ส่งเสริมความเข้มแข้งครอบครัว  การสอนเพศศึกษาและการตรวจโรคหัวใจ
  • ส่งเสริมความสามารถของเด็ก มีบทบาทสำคัญที่สุด
  • การสื่อความหมายทดแทน (ACC)  ส่งเสริมความสามารถของเด็ก ให้ได้เล่นของเล่นที่หลากหลาย และทำกิจกรรมที่หลากหลาย
  • ศิลปกรรมบำบัด (Art Therapy) ปรับพฤติกรรม ฝึกทักษะทางสังคม ให้รงเสริม
  • ตนตรีบำบัด    การฝึกพูด การสื่อความหมายทดแทน (ACC)
  • การฝังเข็ม การฝึกพูด การมีสมาธิ การฟัง การทำตามคำสั่ง
  • การบำบัดด้วยสัตว์ การรักษาด้วยยา Methylphnidate (Ritlin)ช่วยลดอาการไม่นิ่ง/ชนหุนหันพลันแล่น/ขาดสมาธิ  
สะท้อนการเรียน
      จากเนื้อหาที่เรียนทำให้เรารู้ว่าเด็กดาวน์ซินโดรมมีอาการอย่างไร เพื่อจะสามารถช่วยเหลือหรือบำบัดเด็กได้ทันท่วงทีเวลาเราได้ลงมือปฏิบัติจริงในการเรียนการสอน ซึ่งเนื้อหาที่อาจารย์นำมาสอนสำคัญกับเด็กที่มีความบกพร่องทางพันธุ์กรรมเป็นอย่างมาก เช่นเด็กลุ่มดาวน์ซินโดรม และเด็กที่มีอาการทางออทิสติก ทำให้ได้รับองค์ความรู้ที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในรายวิชาอื่นๆและนำมาปรับใช้ในการเรียนการสอนในอนาคตต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

สัปดาห์ที่ 12

วันที่  23  มกราคม 2557


การเรียนการสอน
อาจารย์ให้นำเสนองานต่อจากสัปดาห์ก่อน ซึ่งเพื่อนกลุ่มสุดท้ายได้นำเสนอเรื่องเด็กออทิสติก สรุปเนื้อหาได้ดังนี้
      เด็ก Austitim  หมายถึง  เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น โรคนี้เป็นความผิดปกติในสมองซึ่งมีอาการแสดงและความผิดปกติได้หลายรูปแบบ เด็กจะไม่สามารถเข้าใจคำพูด ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น การพัฒนาด้านภาษาและสติปัญญาก็ไม่สมบูรณ์ ทำให้เด็กไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม เด็กทำบางสิ่งซ้ำๆ
Autism คือ  โรค Autism เป็นความผิดปกติในสมอง เด็กที่เป็นจะมีปัญหาเรื่อง การสื่อสาร ความสัมพันธ์ กับคนรอบข้างและสิ่งแวดล้อม เด็กบางคนสามารถสื่อสารกับผู้อื่นและก็มีความฉลาด แต่เด็กบางคนเป็นเด็กปัญญาอ่อน ไม่พูด เด็กบางคนก็มีพฤติกรมทำซ้ำซาก จะเห็นว่าเด็กแต่ละคนมีอาการไม่เหมือนกัน ความรุนแรงไม่เท่ากัน แต่จะมีปัญหาทางสังคม การสื่อสาร พฤติกรรม กล้ามเนื้อและความรู้สึก
สาเหตุของ Autism
สมองของคนเราเริ่มสร้างและพัฒนาตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิจนกระทั่งเกิด โดยแต่ละส่วนของสมองจะมีเซลล์ประสาท neuron ที่ทำหน้าที่พิเศษไปฝังตัว หลังจากนั้นเซลล์เหล่านี้จะแบ่งตัวมากขึ้น และมีใยประสาท fibers เป็นตัวเชื่อมเซลล์ประสาท สมองจะสั่งงานโดยการหลังสาร neurotransmitters ที่รอยต่อของเซลล์ประสาท
เด็กที่เป็น Autismจะมีลักษณะอาการดังนี้
อาการทางสังคม
เมื่อยังเป็นเด็กจะมีการพัฒนาพฤติกรรมปกติกล่าวคือเด็กจะจ้องมองหน้าและตา หันไปตามเสียงหรือแสง จับนิ้วมือ ยิ้ม เด็กที่เป็น autism จะไม่สบตาพ่อแม่มักจะชอบอยู่คนเดียว เด็กไม่ชอบการกอดรัด เด็กจะเหมือนหุ่นไม่แสดงออกถึงความรัก ความโกรธ ไม่ร้องไห้เมื่อแม่ออกนอกห้อง ไม่ดีใจเมื่อแม่กลับเข้ามา เด็กจะมีปัญหาการเรียนรู้ เด็กจะไม่รู้ความหมายของการยิ้ม ไม่เข้าใจภาษาทางร่างกาย
ปัญหาด้านภาษา
เด็กปกติแรกคลอกจะมีการพูดแบบเด็กๆคืออ้อแอ้ไม่เป็นภาษา เมื่อโตขึ้นก็จะหัดพูดเป็นคำๆ  หันหน้าไปตามเสียงเรียกชื่อ ชี้สิ่งที่ตัวเองต้องการ เมื่อโตขึ้นเด็กก็จะพูดประโยคสั้นๆได้ ทำตามคำสั่งง่ายๆได้
พฤติกรมที่ทำซ้ำๆ
  • เด็ก autism จะมีร่างกายปกติแต่มักจะมีพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆทำให้ไม่สามารถเล่นกับเด็กคนอื่น
  • เด็กอาจจะนั่งเคาะโต๊ะ หรือโบกมืออยู่เป็นชั่วโมง
  • เด็กนั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
  • เด็กอาจจะมีพฤติกรรมที่ซ้ำๆ เช่นวิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโนน
  • เด็กอาจจะคว้ามือคนอื่นให้ดูนาฬิกาตัวเองอยู่ตลอดเวลา หรืออาจะเอาอุจาระออกจากห้องน้ำเข้าห้องเรียน
  • เด็กจะไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมเช่น นั่งโต๊ะตัวเดียง กินอาหารเวลาเดียวกัน เด็กจะโกรธมากหากสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป เช่นตำแหน่งของช้อน เก้าอี้ รูปภาพ
ปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้
เด็ก autism จะมีปัญหาเรื่องการรับรู้จากสัมผัสทั้ง 5ทำให้เด็กสับสน เด็กอาจจะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อต้องสัมผัสบางอย่างเช่น  รูป  รส กลิ่น เสียง
ความสามารถพิเศษ
  • เด็ก autism บางคนมีความสามารถพิเศษหลายอย่างเช่น การวาดรูป ความจำ การเล่นดนตรี การอ่านหนังสือมากกว่าการพัฒนาของเด็กปกติ
  • การที่จะรู้ว่าเด็กมีพฤติกรรมผิดปกติต้องรู้พฤติกรรมปกติของเด็ก
จากนั้นอาจารย์ให้นักศึกษาทุกคนสอบกลางภาค
สะท้อนการเรียน
การฝึกเป็นผู้รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมภายในห้องเรียนและการสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับจากการนำเสนองานของเพื่อนเรื่องเด็กออทิสติก

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

สัปดาห์ที่ 11

วันที่ 15 มกราคม 2557


การเรียนการสอน 
     หมายเหตุ  : ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากเกิดเหตุการณ์บ้านเมืองทำให้นักศึกษาหลายๆคนมีปัญหาเรื่องการเดินทาง จึงไม่สามารถมีการเรียนการสอนได้ตามปกติ
ซึ่งงานที่อาจารย์ได้มอบหมายงานให้นักศึกษาได้รับผิดชอบเป็นรายบุคคลดังนี้
สรุปงานวิจัยที่หามาใส่กระดาษA4 ตามหัวข้อนี้  (กำหนดส่งภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557)*
1.ชื่องานวิจัย/ชื่อผู้วิจัย/มหาวิทยาลัย
2.ความสำคัญและความเป็นมาของงานวิจัย
3.วัตถุประสงค์ของการวิจัย
4.ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย
5.นิยามศัพท์เฉพาะ
6.ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง
7.เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
8.การดำเนินการวิจัย
9.สรุปผลการวิจัย
10.ความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่องานวิจัยชิ้นนี้
สะท้อนการเรียน
  • การสรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษางานวิจัย
  • การรับผิดชอบในงานที่อาจารย์ได้มอบหมายให้รับผิดชอบ
  • การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมบทเรียนที่เราเรียนในห้อง  และการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557

สัปดาห์ที่ 10

วันที่ 9 มกราคม 2557


การเรียนการสอน
อาจารย์ให้นักศึกษานำเสนองานกลุ่ม ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มเด็กที่มีความบกพร่องในด้านต่างๆ ดังนี้
        กลุ่มที่ 1 นำเสนองานเรื่อง ภาวะการเรียนบกพร่อง (LD)  
กลุ่มที่ 2 นำเสนองานเรื่องเด็กพิการทางสมอง  (CP)
                                                     กลุ่มที่ 3 นำเสนองานเรื่องเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (สมาธิสั้น)
                                                     กลุ่มที่ 4 นำเสนองานเรื่องดาว์นซินโดรม 
                                                     สรุปจากเนื้อหาที่เพื่อนนำเสนอได้ดังนี้
จากนั่นอาจารย์สอนเนื้อหาต่อจากสัปดาห์ก่อน มีเนื้อหาดังนี้
การประเมินที่ใช้ในการปฏิบัติ
  • แบบทดสอบ Denver ll
  • Gesell Drawiny Test
  • แบบประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุแรกเกิด - ขวบ (สถาบันราชนุกูล)
แนวทางในการดูแลรักษา
  • หาสาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
  • การตรวจค้นหาความผิดปกติร่วม
  • การรักษาสาเหตุโดยตรง
  • การส่งเสริมพัฒนาการ
  • ให้คำปรึกษากับครอบครัวในการหาแหล่งความรู้เพิ่มเติมต่างๆ
ขั้นตอนในการดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
  • การตรวจคัดกรองพัฒนาการ
  • การตรวจประเมินพัฒนาการ
  • การให้บริการวินิจฉัยและหาสาเหตุ
  • การให้การศึกษาและส่งเสริมพัฒนาการ
  • การติดตามและประเมินผลการรักษาเป็นระยะ
สะท้อนการเรียน
การได้สรุปองค์ความรู้ในห้องเรียนที่เพื่อนได้นำเสนองาน
การฝึกการนำเสนองานหน้าชั้นเรียนซึ่งทำให้เรากล้าแสดงออก และเนื้อหาที่เพื่อนนำเสนอก่อให้เกิดประโยชน์ในการศึกษา เนื่องจากเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับกลุ่มอาการเด็กที่มีความบกพร่องในด้านต่างๆ ทำให้เราได้รับความรู้และนำมาปรับใช้ในการเรียนการสอนให้เหมาะสม